เรามีชื่อว่าปอไหม และตอนนี้ปอไหมอายุ 25 ปี ปอไหมทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งนี้เข้าปีที่ 3 แล้ว แต่ว่าปอไหมไม่ขอบอกว่าเป็นบริษัทอะไร ปอไหมโชคดีมากที่เรียนจบมาแล้วปอไหมก็ได้งานที่บริษัทนี้ทำเลย ปอไหมต้องรู้สึกขอบคุณเจ้านายมากๆที่ให้โอกาสปอไหมได้มาเป็นเลขาของท่าน ประจวบเหมาะกับจังหวะที่เลขาของท่านเจ้านายของปอไหมที่กำลังทำอยู่ได้ลาออกจากบริษัทพอดี เลยเป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะพอเจาะพอดีที่ปอไหมได้มาสมัครงาน แต่ตอนนั้นในวันที่มาสัมภาษณ์งานมีคนมาสัมภาษณ์ 10 กว่าคนได้ และปอไหมต้องขอบคุณเจ้านายจริงๆที่เลือกปอไหมให้มาเป็นเลขาของท่าน เพราะที่บ้านปอไหมนั่งลำบากมากจริงๆ หนี้สินและภาระมากมายปอไหมต้องเป็นคนรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลังจากที่ปอไหมเรียนจบแล้ว แทนช่วงที่มาทำงานใหม่ตอนนั้นบ้านของปอไหมขาดส่งไปได้ประมาณสี่เดือน และถ้าขาดส่งอีกสองเดือนบ้านของปอไหมก็จะถูกยึดทันที แต่ปอไหมก็ได้ขอร้องให้เจ้านายของปอไหมช่วยโดยให้หักเงินจากเงินเดือนของปอไหม แต่เจ้านายของปอไหมก็ใจดีมากๆ เขาให้เงินปอไหมมาใช้หนี้ฟรีๆกับเงินค่าบ้านที่ค้างเอาไว้ ปอไหมรู้สึกดีใจและรู้สึกขอบคุณเจ้านายของปอไหมมาก ตั้งแต่ปอไหมเข้ามาทำงานที่นี่ปอไหมก็เต็มที่กับงานตลอด
Category: เรื่องเสียว
สวัสดีครับวันนี้แก๊บอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ของแก๊บ ซึ่งเป็นประสบการณ์การนัดเย็ดผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งแอพนี้ก็จะเป็นแอพที่ไว้สำหรับให้หนุ่มสาวโสดได้มาคุยกัน บางคนอาจจะคุยแบบผูกมัด หรือบางคนอาจจะคุยกันแบบไม่ผูกมัด แค่เย็ดกันแล้วก็ต่างคนต่างไปก็มี ซึ่งช่วงนี้แก๊บก็ค่อนข้างหนาวพอสมควรครับ แก๊บเลิกกับแฟนเก่าของแก๊บมาได้พักใหญ่แล้ว จนตอนนี้แก๊บก็ยังไม่มีแฟนใหม่สักที และแก๊บก็ได้ยินมาจากเพื่อนของแก๊บว่ามันมีแอพที่ไว้ใช้หาคู่ แต่หลายคนมักจะใช้ในทางที่ผิด นั่นก็คือการนัดเย็ดกัน ตอนแรกที่แก๊บโหลดแอพนี้มาความตั้งใจของแก๊บก็คือแก๊บต้องการหาผู้หญิงคนหนึ่งที่มาคุยกับแก๊บแบบจริงๆจังจังเพราะว่าแก๊บนั้นเหงามากแล้วก็อยากมีแฟน คุณเป็นโสดมักจะเข้าใจกันดีนะครับว่าอารมณ์เหงามันเป็นยังไง และแก๊บก็เริ่มรู้สึกเบื่อความเหงาแบบนี้เต็มทีแล้วครับ ตอนที่แก๊บโหลดแอพนี้มาใหม่ๆ ก็มีสาวๆ ทักแก๊บมาเต็มเลยครับ เพราะว่าแก๊บนั้นใช้รูปหน้าจิงของแก๊บลงในแอพนี้ และคนที่ทักเข้ามาแก๊บเชื่อว่าส่วนมากก็คงอยากจะลองเย็ดกับแก๊บดูสักครั้ง แต่แก๊บก็ตอบแชททุกคนนะครับ ใครที่เข้ามาคุยกับแก๊บแก๊บก็คุยด้วยหมดแหละ เพราะว่าแก๊บเป็นคนแฟรนลี่ เข้ากับคนง่าย แต่มันมีผู้หญิงอยู่คนนึงครับซึ่งหน้าตาคล้ายแฟนเก่าของแก๊บมากๆ
ชายหนุ่มคนหนึ่งมีชื่อว่าเต๋า ซึ่งเต๋าได้มีนัดกับแฟนสาวของเต๋าว่าทั้งสองคนจะไปเดตด้วยกันตอนประมาณหกโมง เมื่อถึงเวลานัดเต๋าอยู่ทำงานจนดึกและลืมนัดของแฟนสาว เต๋าทำงานเสร็จตอนสองทุ่มกว่า และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ปรากฏว่ามีสายที่ไม่ได้รับหลายสายมาก ซึ่งเป็นสายของแฟนสาวของเต๋านั่นเอง พอเห็นเบอร์แฟนจึงนึกขึ้นมาได้ว่าเต๋าผิดนัดไปชั่วโมงนึงแล้ว ถึงรีบเก็บของและวิ่งตรงไปที่รถเพื่อขับออกไปหาแฟนสาวทันที พอไปถึงห้องเดินเข้าไปก็เห็นแฟนสาวนั่งทำหน้าไม่พอใจอยู่ที่โต๊ะ เต๋าจึงเดินเข้าไปง้อ แต่แฟนสาวไม่ยอมหายโกรธ เดินเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตูเสียงดัง เต๋าเดินตามไปเปิดประตูห้องน้ำแต่แฟนสาวล็อคประตูไว้ เต๋าไม่รู้จะทำยังไง จึงได้แต่นั่งรออยู่บนเตียง หลังจากนั้นเต๋าเห็น เข้าห้องน้ำนาน จึงเดินไปตะโกนเรียก ก็แฟนสาวไม่ยอมตอบ เต๋าจะเอากุญแจสำรองขายเข้าไปก็เป็นห่วง พ่อใครก็ไปก็เจอแฟนสาวของเต๋า อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ แฟนสาวเปิดเพลงเสียงดังฉันไม่ได้ยินที่เต๋าเรียก เต๋าเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของแฟนสาวที่มีน้ำจากฝักบัวตกลงมากระทบ
กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านตัวเมืองชลบุรี ซึ่งถือเป็นเรื่องราวปกติของเด็กมหาลัยที่จะมาติวหนังสือกันเป็นหมู่คณะ ซึ่งวันนี้กลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้ก็มาติวหนังสือกันที่ห้องของอาร์ต ซึ่งอาร์ตได้เช่าหอพักซึ่งไม่ใช่หอพักของมหาวิทยาลัยเอาไว้ และอาร์ตได้เช่าหออยู่กับแฟน ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่พอสมควร ใหญ่พอที่จะลองรับเพื่อนจำนวนมากๆได้ ซึ่งกลุ่มเพื่อนของอาร์ตก็จะมีทั้งผู้หญิงผู้ชายปะปนกันไปตามสไตล์เด็กวิศวะ ซึ่งแฟนของอาร์ตมีชื่อว่าแอน และแอนก็เรียนในสาขาวิชาเดียวกับอาร์ต หรือเรียกว่าเรียนด้วยกันนั่นแหละ แต่ทั้งแอนและอาร์ตก็จะเป็นเด็กที่ไม่ได้หัวดีมาก เลยต้องอาศัยให้เพื่อนๆมาติวให้ และยอมเสียสละใช้ห้องของตัวเองเป็นสถานที่ติวหนังสือ จะได้ไม่ต้องไปนั่งคาเฟ่ให้เสียเงินกัน แถมจะเสียงดังแค่ไหนก็ได้ไม่ต้องเกรงใจใคร ไม่เหมือนกับการอ่านในที่สาธารณะ วันนี้ที่มาติวหนังสือกัน ต่างคนต่างมาพร้อมกับเอนเนอร์จี้ที่เต็มร้อย ทุกคนมีความพร้อมมากๆสำหรับการติวหนังสือในครั้งนี้ แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นโดยที่เพื่อนๆหลายคนไม่รู้เรื่อง เหตุการณ์นั้นก็คือแอ๋วเพื่อนคนสนิทของแอน เพื่อนร่วมชั้นของอาร์ตขอตัวเพื่อนๆไปเข้าห้องน้ำ แล้วเพื่อนๆเลยอาศัยจังหวะนี้เป็นจังหวะที่นั่งพักกัน ทุกคนเมาท์มอยกันเสียงดังมาก
จากประสบการณ์ตรงของคนท้องวันนี้แพตตี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์ของแพตตี้ให้ทุกคนได้ฟังกัน ตอนนี้แพตตี้อายุ 28 ปี ซึ่งแพตตี้ได้แต่งงานกับสามีมาเป็นเวลาสามปีแล้ว ซึ่งแพตตี้เป็นคนที่มีลูกยากมากๆ แพตตี้ปล่อยท้องตั้งแต่ปีแรกที่แพตตี้แต่งงานกับสามี แต่เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปเข้าสู่ปีที่สาม ก็ยังไม่มีวี่แววว่าแพตตี้จะท้องได้เลย จนมาล่าสุดตอนนี้แพตตี้ท้องได้เจ็ดเดือนแล้วค่ะ ด้วยความที่แพตตี้มีลูกยากมากๆ ตั้งแต่สามีของแพตตี้รู้ว่าแพตตี้ท้อง สามีก็ไม่อยากให้แพตตี้ขยับเนื้อขยับตัวเลยค่ะ เพราะสามีก็กลัวว่าลูกจะหลุด ตอนนั้นที่สามีรู้ สามีให้แพตตี้ลาออกจากที่ทำงานเลยค่ะ เอาตรงตรงแพตตี้ก็ไม่ได้อยากจะลาออกนะคะเพราะว่าการอยู่บ้านเฉยเฉยมันน่าเบื่อมาก โดยเฉพาะตอนอยู่บ้านแล้วสามีของแพตตี้สั่งมาให้แพตตี้ทำอะไรมากเลย จะขยับเนื้อขยับตัวสามีของแพตตี้ยังไม่อยากให้ทำ แพตตี้เข้าใจนะคะ ว่าแพตตี้มีลูกยากและสามีก็กลัวว่าถ้าพลาดครั้งนี้ครั้งต่อไปอาจจะใช้เวลานาน ช่วงนั้นที่แพตตี้ท้องใหม่ใหม่แพตตี้เลยกลายเป็นเหมือนคุณหญิงคุณนายไปเลยค่ะ อยากจะทำอะไรก็มีคนทำให้ อยากจะกินอะไรสามีของแพตตี้ก็ไปหามาให้จนได้ แต่มันก็ไม่ใช่ความรู้สึกดีขนาดนั้นนะคะมันเหมือนคนที่นอนอยู่บนเตียงเฉยเฉยวันวันไม่ทำอะไรแพตตี้คิดว่ามันก็น่าเบื่อค่ะ
เรื่องราวของสาวออฟฟิศคนหนึ่งมีชื่อว่านุช นุชเพิ่งเรียนจบในระดับมหาวิทยาลัยและเข้ามาทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเป็นบริษัทลูกจ้างของหน่วยงานรัฐ และการที่จะทำงานกับหน่วยงานรัฐนั้นเงินจะออกแค่งวดละครั้งซึ่งในแต่ละงวดก็ต้องทำการส่งงานให้ตรงเวลา เพราะว่าถ้านุชไม่สามารถทำงานส่งให้ทันตามเวลาได้เงินก็จะทบไปอีกงวดทันที นุชเป็นเด็กบ้านนอก บ้านของนุชอยู่ที่ต่างจังหวัดโซนอีสาน และแถวบ้านของนุชไม่ค่อยมีสายงานที่ตรงกับด้านที่นุชเรียนมานุชถึงต้องเข้ามาในกรุงเทพเพื่อมาหางานออฟฟิศทำ ความจริงแล้วนุชจบในสาขาบัญชี แต่ว่างานที่นุชทำนั้นก็ไม่ได้ตรงกับสาขาที่นุชจบมาแต่นุชก็ต้องทำไปก่อนเพราะว่าช่วงนี้งานหายากมาก แล้วยิ่งช่วงโควิด ระบาดหนักแบบนี้ถือว่านุชเป็นคนที่โชคดีมากคนหนึ่งที่ยังมีงานทำ เมื่อเทียบกับอีกหลายหลายคนที่ตกงาน นุชเป็นหญิงสาวที่สู้งานคนหนึ่ง ไม่ว่าจะมีใครที่โยนงานอะไรมาให้นุช นุชก็จะรับทำหมด นุชมองว่าตัวนุชนั้นเป็นผู้น้อยและไม่สามารถปีกกล้าขาแข็งกับคนที่ทำงานมาก่อนนุชได้ และอีกเหตุผลหนึ่งนุชก็อยากให้หลายหลายคนในออฟฟิศเอ็นดูนุชเหมือนกัน และวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาที่ใกล้จะส่งงวดงาน แต่ว่างานนะลัดตัวมาก งานจากทุกฝ่ายรุมวิ่งกรูเข้ามาหานุช จนนุชไม่สามารถบริหารและจัดการได้ทันภายในเวลา และนุชก็มองว่าถ้างานยังหนักขนาดนี้แล้วนุชยังมีอยู่เวลาทำงานเท่าเดิม บริษัทก็ต้องทำใจถ้าหากว่าจะเบิกงานงวดนี้ไม่ทันเพราะทุกคนต่างก็โยนงานมาให้นุชทำเพียงแค่คนเดียว นุชได้เอาปัญหานี้เข้าไปคุยกับหัวหน้าของนุช และหัวหน้าของนุชก็หาทางออกให้ด้วยการหาคนมาช่วยเพิ่มหนึ่งคน
ในครอบครัวแห่งหนึ่งมีสองน้องพี่ชายหนุ่มคนที่มีชื่อว่าปาล์ม ส่วนคนพี่มีชื่อว่าปลื้ม ทางปาล์มและปลื้มมีอายุห่างกันเพียงปีเดียว แต่ว่าทั้งสองคนนั้นดันได้เมียเป็นหญิงสาวฝาแฝด ซึ่งฝาแฝดคู่นั้นก็ดันมีหน้าตาที่เหมือนกันมากจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร บางทีปาล์มกับปลื้มก็ยังงงกันเองว่าสรุปคนไหนเป็นเมียของใคร แต่ปาล์มจะคบกับสาวฝาแฝดคนที่เป็นน้องอีก ซึ่งเธอมีชื่อว่าพราว ส่วนปลื้มจะคบกับพี่สาวฝาแฝดของพราวที่มีชื่อว่าแพรว ทั้งสองคนมักจะชวนแฟนของทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน จนทำให้คนหลายหลายคนก็มองว่าน้องพี่คู่นี้มันเหมาทั้งบ้านเลย แถมบางครั้งปาล์มกับปลื้มยังทักแฟนของตัวเองผิดทั้งๆ ที่ทั้งสองคนคบหาดูใจกันมานานเป็นเวลากว่าสามปีแล้ว แต่ปลื้มและปาล์มก็ไม่สามารถจับจุดได้ว่าทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันตรงไหน จนวันหนึ่งปลื้มและปาล์มตัดสินใจซื้อนาฬิกาให้แฟนของเค้าทั้งคู่โดยจะซื้อกันคนละสี โดยที่พราวจะใส่นาฬิกาสีชมพู ส่วนแพรวจะใส่นาฬิกาสีฟ้า คราวนี้มันก็ช่วยทำให้ปาล์มและปลื้มสามารถจำแฟนของตัวเองได้ง่ายขึ้น อยู่มาวันหนึ่งแพรวและพราวต่างก็วางแผนสลับตัวกัน พราวบอกกับแพรวว่า “วันนี้แพรวอยากจะใส่นาฬิกาสีฟ้า เราลองมาเล่นสลับตัวกันดีไหมแพรว เราจะได้ลองดูด้วยว่าตรงกับตัวเองจะจำเราได้จริงๆไหมหากไม่มีนาฬิกาคนละสีที่เรากำลังใส่อยู่” แพรวจึงตอบกลับพราวไปว่า “แล้วถ้าปาล์มกับปลื้มจำไม่ได้ล่ะ”
ผมชื่อทอมครับ ตอนนี้ทอมเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ทอมขอไม่บอกนะครับว่าเป็นมหาวิทยาลัยอะไร ตอนนี้ทอมเรียนอยู่ปี 2 แล้วครับ ทอมมีแฟนสาวเป็นรุ่นน้องอยู่คนนึงแพรวามีชื่อว่าแพรวา ซึ่งแพรวาเรียนคนละนะกับทอมเราทั้งคู่ได้เจอกันในงานรับน้องใหญ่ของมหาวิทยาลัย แพรวาเป็นคนที่น่าตาน่ารักมาก และทอมต้องบอกทุกคนทุกคนเลยว่าลีลาการเย็ดบนเตียงของแพรวานั้นก็เด็ดไม่แพ้กัน แพรวาเป็นสาวเรียบร้อยที่แฝงไปด้วยความร้าย และเป็นผู้หญิงที่ใจถึงคนนึงเลยก็ว่าได้ ครั้งหนึ่งตอนที่เราไปวิ่งกันที่สนามกีฬาของมหาวิทยาลัย และตกดึกในคืนวันนั้นเหลือเราสองคนเป็นคนสุดท้ายที่สนามกีฬาแล้วทอมดันเกิดเงี่ยนขึ้นมาซะงั้น และสิ่งที่แพรวาทำให้ทอมคือ แพรวากระซิบบอกทอมให้ทอมกับแพรวาไปแซ่บกันที่ใต้บันไดอัฒจรรย์ของสนามกีฬา แพรวาถอดกางเกงของทอมออกแล้วก้มลงไปดูดควยให้กับทอมโดยที่แพรวาไม่รังเกลียดกลิ่นเหงื่อไครของทอมเลย และสิ่งที่ทอมทำตอบแทนแพรวาก็คือการเลียหีคืนให้แพรวาบ้างและเราทั้งสองคนก็เย็ดกันจนเสร็จที่สนามกีฬาแห่งนั้น และที่นั่นก็กลายเป็นสถานที่ที่เป็นความทรงจำในการเอาท์ดอร์ครั้งแรกของเราสองคน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นในการมีอะไรกันนอกสถานที่ของทอมกับแพรวา และหลังจากนั้นหลายๆครั้งเราก็เริ่มมีอะไรกันข้างนอกห้องนอนกันบ่อยขึ้น เพราะตัวทอมเองก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่ท้าทายมากอยู่เหมือนกัน สิ่งที่กังวลก็คือทอมกลัวว่ากำลังเย็ดๆกันอยู่แล้วจะมีคนมาเห็น แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งครับทุกคน ทอมกำลังเย็ดกับแพรวาอยู่ที่ระเบียงหลังห้องของเรา
สวัสดีครับทุกคนผมมีชื่อว่าก๊อก ตอนนี้ก๊อกอายุ 27 ปีแล้วก๊อกมีแฟนอยู่คนนึงแฟนของก๊อกมีชื่อว่าข้าวเกรียบ ซึ่ซึ่งก๊อกกับข้าวเกรียบนั้นได้เจอกันตอนสมัยที่เราเรียนในมหาวิทยาลัยด้วยกันตอนนี้ก็เข้าปีที่เจ็ดแล้วที่เราคบกัน ซึ่งความรักของเรานั้นกำลังไปได้อย่างราบรื่นมากๆและเราก็มีแพลนกำลังจะแต่งงานด้วยกันในอนาคต เราอาจจะมีทะเลาะกันบ้างแต่มันก็เป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นแฟนกันซึ่งก๊อกก็เชื่อว่าไม่มีคู่ไหนเกิดมาแล้วไม่ทะเลาะกัน ช่วงนี้ก็ใกล้ปีใหม่แล้วก๊อกจึงชวนเพื่อนเพื่อนของก๊อกไปเที่ยวกันที่เชียงใหม่เพื่อไปสูดอากาศหนาวเย็นตามข่าวต่างๆก๊อกบอกให้เพื่อนทุกคนพาแฟนไปได้อย่างเต็มที่เพราะตัวก๊อกก็จะพาข้าวเกรียบไปกับก๊อกด้วยเหมือนกันซึ่งตัวก๊อกก็เป็นตัวตั้งตัวตีของทริปนี้เองซึ่งเพื่อนที่ก๊อกชวนก็มีทั้งเพื่อนสมัยมัธยมเพื่อนสมัยประถมแต่เพื่อนมหาวิทยาลัย ในตอนแรกก๊อกไม่คิดว่าทิดนี้จะเป็นไปได้หรือไม่เพราะว่าเพื่อนแต่ละคนที่ก๊อกชวนไปนั้นบางคนไม่รู้จักกันด้วยซ้ำรู้จักเปลี่ยนแค่ก๊อกคนเดียว แต่ทุกคนก็ตกลงไปทิพย์นี้ร่วมกับก๊อกก็คงเป็นเพราะว่าทุกคนอาจจะไปทำความรู้จักกันที่โน่นเพราะเราก็โตโตกันแล้วแถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกันก็คงคุยกันง่ายไม่มีอะไรมาก และเมื่อถึงวันไปเที่ยวต่างคนก็ต่างขับรถยนต์ของตัวเองไปซึ่งก๊อกก็ขับรถไปกับข้าวเกรียบสองคนและทุกคนก็ไปเจอกันที่จุดหมายปลายทางที่รีสอร์ทที่ก๊อกโทรไปจองเอาไว้ในตอนแรก แต่ความพีคของเรื่องนี้คือเพื่อนของก๊อกคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนสมัยประถมของก๊อกซึ่งมันมีชื่อว่าอั้ม ซึ่งอั้มได้พาแฟนของมันมาด้วยแต่หญิงสาวที่เป็นแฟนของมันนั้นเคยเป็นแฟนเก่าของก๊อกตอนสมัยที่ก๊อกเรียนมัธยมซึ่งเรื่องนี้อั้มเพื่อนของก๊อกไม่น่าจะรู้ และแฟนเก่าของก๊อกเธอมีชื่อว่าเชอร์รี่ เมื่อเชอร์รี่เปิดประตูลงจากรถของอั้มและเจอหน้าปลุกเราทั้งคู่ต่างสบตากันแต่ก็ต่างฝ่ายต่างเงียบเพราะไม่อยากให้ทำให้ทริปนี้กร่อย ก๊อกไม่อยากให้อั้มเพื่อนของก๊อกรู้ว่าเชอร์รี่แฟนของมันเคยเป็นแฟนเก่าของก๊อก แล้วก๊อกก็ไม่อยากให้ข้าวเกรียบรู้เรื่องนี้ด้วยเพราะว่ามันจะเป็นการทำให้เธอไม่สบายใจมากกว่า ก๊อกอยากให้ทริปนี้เป็นทริปที่สนุกก๊อกจึงเลือกที่จะเงียบปากเอาไว้และแอบไปคุยกันสองต่อสองกับเชอร์รี่ตอนที่ไม่มีใครเห็น ก๊อกได้ก๊อกได้จะถามเธอว่าสบายดีไหม คบกับอั้มเป็นอย่างไรบ้าง ตามประสาคนที่เคยเป็นแฟนเก่าแต่ปัจจุบันได้ลดสถานะเป็นคนรู้จัก แต่ก๊อกก็ไม่เคยคิดว่าตัวก๊อกนั้นกับเชอร์รี่ก็ต้องกลับไปคืนดีกันหรอก เพราะตอนที่เราคบกันนั้นเราก็ยังเด็กอยู่มากๆอีกครั้งตอนนี้ก๊อกก็ยังมีข้าวเกรียบที่คบกันมากว่าเจ็ดปีแถมเรายังมีแพลนที่จะแต่งงานกันอีกด้วย แต่เรื่องที่พีคกว่านั้นคือรีสอร์ทหลังหนึ่งจะให้นอนพักได้สี่คนซึ่งก๊อกได้จับคู่นอนกับอั้ม ซึ่งแปลว่าเชอร์รี่แฟนเก่าของก๊อกก็ต้องมานอนที่ห้องเดียวกันในรีสอร์ทหลังนี้ด้วย
สวัสดีครับ ผมชื่อว่าบาสครับ ตอนนี้ผมอายุ 22 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 ในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งครับ แต่ผมขอไม่เปิดเผยนะครับว่าเป็นที่ไหน เพราะว่าตัวของผมเองก็ไม่อยากให้ชื่อเสียงที่มหาวิทยาลัยได้สร้างมาต้องมาเสื่อมเสียเพราะผม และเรื่องราวที่ผมอยากจะมาแชร์วันนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวของผมเอง กับเพื่อนสนิทของผมอีกครน ซึ่งมันมีขื่อว่าไอโป้ ผมกับไอโป้เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถมเลยครับ แต่จะมีตอน ม.ต้น ที่มันย้ายไปเรียนที่อื่น แต่โชคดีที่ ม.ปลาย ผมกับมันก็ได้กลับมาเรียนที่เดียวกันอีกครั้ง ที่โรงเรียนประจำจังหวัด และก็โชคดีมากที่ผมกับไอโป้ดันสอบได้อยู่ห้องเดียวกัน ผมก็เลยจะสนิทกับไอโป้มาก เพราะเรียกได้ว่าแทบจะเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กเลยก็ว่าได้ แถมมหาวิทยาลัยก็ได้มาเรียนที่เดียวกันอีกต่างหาก