สำหรับคนที่เคยเป็นเด็กติดเกมสมัยก่อนคงจะรู้ดีว่าบรรยากาศการไปนั่งเล่นเกมที่ร้านเกมมันเป็นยังไง ซึ่งบรรยากาศมันแตกต่างจากสมัยนี้มากที่เราสามารถเล่นเกมผ่านโทรศัพท์มือถือได้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินไปนั่งเล่นที่ร้านเกมแต่อย่างใด เอาความจริงตัวของผมเองก็นึกถึงสมัยก่อนที่จะต้องเสียเงินไปซื้อชั่วโมงเน็ตเพื่อที่จะมาเล่นเกม รและสำหรับความรู้สึกส่วนตัวของผมผมรู้สึกว่าการเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์มันค่อนข้างที่จะสะใจกว่าการเล่นแค่ในโทรศัพท์ มันทำให้เราสามารถเข้าถึงเกมและอินกับเกมได้มากกว่าการที่ต้องมาโฟกัสเพียงแค่จอสี่เหลี่ยมๆ แต่อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าบรรยากาศแบบนั้นในอดีตมันคงจะไม่กลับมาอีกแล้ว เพราะแถวบ้านผมเองร้านเกมก็เริ่มเจ๋งและปิดตัวไปตั้งแต่มีโควิดระบาด ทำให้ธุรกิจนั้นคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กติดเกมมันไม่สามารถทำเงินได้อีกแล้วในตอนนี้ หลังจากที่เกริ่นมานาน สาระสำคัญและเรื่องราวที่ผมอยากจะมาเล่าในวันนี้มันก็เป็นเรื่องราวเสียวๆ ทะลึ่งๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวของผมเองตอนสมัยเรียน ช่วงนั้นผมกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.ปลาย และผมก็เป็นเด็กนักเรียนที่ติดเกมมาก จะต้องมาเล่นเกมตลอดทุกครั้งหลังเลิกเรียน แม้แต่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ผมก็ไม่ว่างเว้น มานั่งเล่นเกมทั้งวันแทบจะไม่ได้กลับบ้าน ตอนนั้นครอบครัวของผมเป็นครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะอะไรมากมาย เงินที่ผมเอามาจ่ายค่าชั่วโมงเน็ตเอาไว้เล่นเกมก็มาจากเงินเก็บส่วนตัวของผม ซึ่งแน่นอนว่าตอนนั้นตัวของผมเองก็ไม่ได้เงินเยอะแยะอะไรมากสำหรับวันๆ นึงที่พ่อแม่ให้ใช้ไปโรงเรียน ยิ่งช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี่ขอเงินจากพ่อกับแม่ยากมาก และพ่อกับแม่ของผมก็รู้อยู่แล้วว่าผมติดเกม เวลาผมไปขอเงินผมก็เลยจะแห้วไม่ได้เงินติดไม้ติดมือมาเลยซักที